วันนี้เราจะมามองโป๊กเกอร์ผ่านมุมมองของเกมกลยุทธ์ รวมไปถึงข้อดีของ
“ความผันผวน” ที่ทำให้โป๊กเกอร์ต่างจากเกมกลยุทธ์อื่น ๆ
หลายคนอาจติดภาพจำของเกมโป๊กเกอร์ เป็นเกมที่เล่นด้วยไพ่และมักพบเห็นคนเล่นเกมชนิดนี้ในกาสิโนทั่ว ๆ ไป อีกทั้งยังถูกจัดให้เป็นเกมการพนันชนิดนึง แต่สิ่งที่ทำให้เกมชนิดนี้แตกต่างจากเกมชนิดอื่น คือคุณสมบัติและกติกาของเกมที่ทำให้ผู้ที่มีทักษะเหนือกว่าสามารถทำกำไรจากมันได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง
[รูปที่ 1: ภาพโต๊ะโป๊กเกอร์ในกาสิโนที่คนมักคุ้นเคย]
วันนี้เราจะมาดูกันว่าอะไรที่ทำให้เกมโป๊กเกอร์เป็นอย่างนั้น ผ่านมุมมองที่ตั้งอยู่บนหลักวิทยาศาสตร์อย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่เพียง content เกาะกระแสที่มักใช้เป็นเหยื่อล่อแมงเม่าให้หลงเข้ามาในเกมนี้
การจะเป็นนักพนันมืออาชีพ **นักโป๊กเกอร์มืออาชีพ** ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับ EV กันก่อน
Expected Value (EV) หมายถึงค่าความคาดหวัง หรือพูดง่าย ๆ คือผลตอบแทนที่เราคาดว่าจะได้รับ ซึ่งเรามักจะคิดถึงผลตอบแทนของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในรูปแบบของ EV เมื่อเหตุการณ์นั้นตั้งอยู่บนความไม่แน่นอน
ยกตัวอย่าง EV ผ่านเกมโยนเหรียญที่เล่นกันระหว่างเรากับเพื่อน โดยกติกามีอยู่ว่า ถ้าโยนเหรียญแล้วออกหัวจะได้ 1 บาทและออกก้อยจะเสีย 1 บาท ทำให้ EV ของเกมนี้มีค่าเป็น (0.5 × 1) + (0.5 × -1) = 0 บาท ซึ่งคิดได้จาก (โอกาสที่ออกหัว × ผลตอบแทนที่ได้เมื่อออกหัว) + (โอกาสที่ออกก้อน × ผลตอบแทนที่ได้เมื่อออกก้อย)
หมายความว่าถ้าเล่นเกมนี้ไปหลายครั้งมาก ๆ โดยเฉลี่ยแล้วเราจะได้เสียอยู่ที่ตาละ 0 บาท หรือ กล่าวคือเกมนี้เป็นเกมที่ในระยะยาวแล้วจะไม่มีใครได้เสียกัน
[รูปที่ 2: เกมโยนเหรียญ]
เกมการพนันในกาสิโนส่วนใหญ่มักเป็นเกมที่เล่นกันระหว่าง house (ผู้จัด) และ player ซึ่งส่วนใหญ่แล้วถูกออกแบบมาให้ house มี EV หรือผลตอบแทนในระยะยาวเป็นบวก เช่นเกม blackjack ที่ house มักมี EV อยู่ที่ 5% ของเงินที่เรานำเข้าไปเล่น อ้างอิงจาก https://betandbeat.com/blackjack/odds/
ด้วยธรรมชาติของเกมพวกนั้น ทำให้สิ่งที่ house หรือกาสิโนต้องการคือปริมาณผู้เล่น ถึงแม้จะมีคนได้เงินกลับไปบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายแล้ว ในระยะยาว house จะเป็นคนที่ชนะและทำเงินจากเกมพวกนี้อยู่ดี
[รูปที่ 3: โอกาสในการที่จะได้ Blackjack]
แต่สำหรับโป๊กเกอร์ เกมจะเป็นการเล่นระหว่าง player กับ player ด้วยกันเอง ซึ่งตรงนี้แหละที่เป็นหนึ่งในความต่างที่สำคัญ (house ได้เงินจาก rake หรือส่วนแบ่งในการจัด tournament)
แต่แค่นี้ยังไม่พอให้โป๊กเกอร์เป็นเกมกลยุทธ์ที่อาศัยทักษะสูงหรอก…
อะไรที่ทำให้โป๊กเกอร์เป็นเกมที่อาศัยทักษะระดับสูง ? ทำไมผู้เล่นที่เก่งกว่าถึงมี edge เหนือคนที่อ่อนกว่าได้
จำนวนความเป็นไปได้ที่เกิดจากการเลือกตัดสินใจในเกม Heads Up No Limit Texas Holdem (หนึ่งในเกมโป๊กเกอร์ประเภทที่นิยมที่สุด) นั้นมีมากถึง 10¹⁶⁰ แบบ ถามว่ามากแค่ไหน ?
ถ้าเทียบกับเกมอย่างหมากรุกนั้นมีเพียง 10¹²⁰ แบบ หรือกล่าวคือจำนวนความเป็นไปได้ในเกมโป๊กเกอร์นั้นมากกว่าหมากรุกถึงล้านล้านล้านล้านล้านล้านล้านเท่า
[รูปที่ 4: ตัวอย่าง Game Tree ของ Kuhn Poker ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเลือกตัดสินใจที่ทำให้แตกความเป็นไปได้ในเกมขึ้นมา]
สิ่งนี้หมายความว่าตัวเลือกในการตัดสินใจในเกมนั้นมีอยู่เยอะมาก ๆ ซึ่งทำให้เกมโป๊กเกอร์นั้นมีความซับซ้อนสูง ผู้เล่นที่เก่งกว่าเลยมีช่องว่างให้สร้าง edge การตัดสินใจที่แตกต่างไปจากผู้เล่นที่อ่อนกว่าได้หลากหลายแบบ ซึ่งส่งผลให้ได้รับผลตอบแทนที่แตกต่างกัน (คล้ายกับเกมกลยุทธ์อื่น ๆ)
สิ่งที่โป๊กเกอร์ต่างไปจากหมากรุกหรือหมากล้อมคือความเป็น “imperfect information” หรือการที่ผู้เล่นไม่เห็นไพ่บนมือของคู่ต่อสู้ และ ธรรมชาติของตัวเกมที่มีการสุ่ม (มีการสุ่มแจกไพ่และสุ่มเปิดไพ่กองกลาง) สองสิ่งนี้ทำให้เกิด “ความผันผวน” ขึ้นมา
จาก 2 ประเด็นที่เราพูดถึง
ประเด็นแรกคือเรื่องของการที่เราไม่รู้ไพ่บนมือของคู่ต่อสู้ แต่สิ่งที่เรารู้ตั้งแต่แรกคือกติกาของเกม ซึ่งเป็นตัวกำหนดความเป็นไปได้ของไพ่บนมือของผู้เล่นทั้งหมดในเกม ถึงแม้เราจะไม่รู้ไพ่บนมือของคู่ต่อสู้ แต่เรารู้ถึงความน่าจะเป็นของสิ่งที่เป็นไปได้ รวมไปถึงผู้เล่นที่เก่งยังสามารถใช้ข้อมูลอื่น ๆ มาช่วยบีบความเป็นไปได้ให้แคบและชัดขึ้นไปได้อีก เช่นกันกับการสุ่มที่เกิดขึ้นในเกม ที่เรารู้ถึงขอบเขตความเป็นไปได้และรู้ถึงความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเมื่อมีความไม่แน่นอนเข้ามาเกี่ยวข้อง เราเลยมักคิดถึงผลตอบแทนในรูปของ EV หรือกล่าวคือการเล่นโป๊กเกอร์ เราไม่ได้วัดผลด้วยการเล่นเพียงไม่กี่ตา
อย่างที่เราพูดถึงไปว่าโป๊กเกอร์เป็นเกมที่มีความผันผวน ผู้เล่นที่เก่งกว่าอาจแพ้ให้กับคนที่อ่อนกว่าในระยะสั้น ผลงานการเล่นเพียงไม่กี่รอบ อาจไม่ได้สะท้อนถึงความสามารถที่แท้จริงของคน ๆ นั้น ต่างไปจากหมากกระดานอย่างหมากรุกหรือหมากล้อม
[รูปที่ 5: ผลการจำลองการเล่นโป๊กเกอร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความผันผวนที่เกิดขึ้น]
ลองนึกถึงเกมที่อาจมีความผันผวนต่ำไปจนถึงไม่มีเลย คนที่เก่งกว่าเป็นผู้ชนะในเกมเสมอ อย่างหมากรุก เมื่อเกมไม่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นที่อ่อนมีโอกาสชนะ แล้วจะมีคนอ่อนจำนวนมากไหลเวียนเข้ามาได้ยังไงละ แต่ลองมองกลับมาที่เกมโป๊กเกอร์ ด้วยภาพลักษณ์ของเกมการพนัน ทำให้มีนักพนันจำนวนมากเข้ามาสาดเงินอยู่บ่อย ๆ หรือ ความสนุกของการนำไพ่อ่อน ๆ มา crack ความผันผวนที่มีในเกมส่งเสริมให้มีผู้เล่นเพื่อสันทนาการเข้ามาในเกมโป๊กเกอร์ ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้นี่เองที่เป็นตัวทำเงินให้กับผู้ที่ศึกษาเกมและมีทักษะที่ดีกว่า
หากคุณเป็นคนที่ชอบเล่นเกมกลยุทธ์อยู่แล้ว การทำเงินจากการเล่นเกมทั่ว ๆ ไปคงมีทางเลือกไม่มาก เช่น การเป็นสตรีมเมอร์เพื่อ entertain ผู้คน หรือ การขึ้นไปสู่ระดับ top เพื่อเป็นนักแข่งเกมมืออาชีพ ซึ่งต้องอาศัยความพยายามและความทุ่มเทมหาศาล ในทางกลับกันเมื่อโป๊กเกอร์เป็นเกมกลยุทธ์ในรูปแบบของเงินต่อเงิน และด้วยความผันผวนที่มากพอให้มีผู้เล่นสันทนาการเข้ามาจำนวนมาก ทำให้การจะเป็นผู้ที่ทำเงินจากเกมนี้ได้ ไม่จำเป็นต้องอาศัยความมานะพยายามเทียบเท่ากับเกมอื่น ๆ
หลายคนเข้ามาในวงการโป๊กเกอร์เพราะเห็นคนที่ได้เงินจากการเล่นเกมทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ ๆ ถึงแม้การตัดสินใจในเกมจะสามารถสร้าง EV เป็นที่เป็นบวกได้ แต่สิ่งที่ EV อาจซ่อนเอาไว้คือความผันผวนที่คนทั่วไปอาจจินตนาการไม่ออก (สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความก่อนหน้า) การจะอยู่รอดในเกมที่มีความผันผวนแบบนี้ อย่างแรกที่ต้องเข้าใจคือธรรมชาติและ mechanic ของตัวเกมถึงจะสามารถรับมือและเริ่มพัฒนาตนเองสู่การเป็นผู้ชนะได้อย่างยั่งยืน
ทุกคนคงได้เห็นกันแล้วว่าทำไมโป๊กเกอร์ถึงเป็นเกมกลยุทธ์ที่มีความซับซ้อนไม่ต่างจากหมากกระดานอย่างหมากรุกหรือหมากล้อม แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือความผันผวนที่เกิดขึ้นในเกม ในทางกลับกันเพราะมีความผันผวน ถึงทำให้โป๊กเกอร์เป็นเกมที่ทำให้ผู้มีทักษะสามารถทำเงินจากมันได้ง่ายกว่าเกมกลยุทธ์อื่น ๆ