Balanced range (บาลานซ์เรนจ์): ช่วงความกว้างของไพ่ที่ไม่สามารถจับทางได้ ซึ่งรวมถึงทั้งไพ่มือที่แข็งแกร่งและไพ่ที่อ่อนแอแต่ที่มีศักยภาพ แม้ว่าคู่ต่อสู้จะรู้ช่วงความกว้างของไพ่คุณ แต่ก็ไม่สามารถหาจุดอ่อนได้หากมันเพราะเราปรับให้มันเท่าๆกันนั่นเอง
Barrel (แบร์เรล): การเดิมพันในรอบโพสต์ฟล็อป
Barreling frequency (ความถี่ในการแบร์เรล) : ความถี่ที่ผู้เล่นเดิมพันต่อเนื่องในรอบเทิร์นและริเวอร์ แบร์เรลเปรียบเทียบเหมือนการยิงกระสุนจากรังเพลิง
Blocking bet (บล็อกกิ้งเบท) : การวางเดิมพันขนาดเล็กเพื่อป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู้เดิมพันด้วยจำนวนที่สูงและทำให้เราตามดูได้ลำบาก
Board texture (ลักษณะของบอร์ด): คุณสมบัติของไพ่กองกลางบนฟล็อป เช่น บอร์ด "เปียก" (wet) ที่มีโอกาสเกิดไพ่สเตรทหรือฟลัชสูง หรือบอร์ด "แห้ง" (dry) ที่ไม่มีไพ่ดรอว์และไม่มีไพ่ที่แข็งแกร่งกว่าเซ็ต
Brick (บริค) : อิฐหรือหินแข็งเปรียบเทียบเหมือนไพ่ที่ออกมาในรอบเทิร์น หรือริเวอร์ที่ไม่มีผลกระทบต่อรูปเกมและไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงผลของไพ่ในมือ
Coin flip (คอยฟลิป): สถานการณ์ที่ไพ่สองมือออลอินกันก่อนฟล็อปและมีความเป็นไปได้ในการชนะใกล้เคียงกัน เช่น ไพ่คู่เล็กปะทะกับไพ่โอเวอร์การ์ดสองใบ อัตราความเสี่ยงเหมือนโยนหัวก้อย
Cold-call (โคลด์คอล) : การจ่ายเงินเพื่อสู้กับการเพิ่มเดิมพันพรีฟล็อปเพียงครั้งเดียว
Cold-calling range (ช่วงมือสำหรับโคลด์คอล) : ช่วงไพ่ที่ใช้ในการคอลกับการเพิ่มเดิมพันพรีฟล็อปเพียงครั้งเดียว
Combination (คอมบิเนชัน): ชุดไพ่การ์ดที่เฉพาะเจาะจง โดยคำนึงถึงดอกไพ่ด้วยเช่น AK จะไม่ใช่. A♦6♣ ใช่
Connect with the board (เชื่อมต่อกับบอร์ด): ระดับที่ไพ่ของผู้เล่นเข้ากับไพ่กองกลาง ซึ่งสามารถวัดได้จาก Equity
Call (คอล) : การจ่ายเงินเดิมพันเพื่อสู้กับการวางเดิมพันของคู่ต่อสู้
Capped range (ช่วงมือที่ถูกจำกัด) : ช่วงไพ่ที่ไม่ได้มีไพ่ที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในนั้น
Check (เช็ค) : การส่งผ่านโอกาสเดิมพันไปให้ผู้เล่นคนถัดไปโดยไม่ลงเงินเพิ่ม
Checked around (เช็คอราวด์): เมื่อผู้เล่นทุกคนเลือกเช็คในรอบโพสต์ฟล็อป
Checking range (ช่วงมือสำหรับเช็ค): ช่วงไพ่ที่ผู้เล่นเลือกเช็คแทนที่จะเดิมพัน
Check-raise (เช็ค-เรส): การเช็คในรอบโพสต์ฟล็อปแล้วทำการเรสเมื่อมีผู้เล่นคนอื่นเดิมพัน
Continuation bet (c-bet) (คอนทินิวเอชั่นเบท) : การเดิมพันที่ผู้เล่นที่ทำการเดิมพันหรือการเพิ่มเดิมพันครั้งล่าสุดเป็นผู้ทำ โดยมักจะย่อว่า “c-bet”
Continuing range (คอนทีนิวอิ้ง เรนจ์): ช่วงไพ่ที่ผู้เล่นใช้ในการคอลหรือเรสการเดิมพันจากผู้เล่นคนอื่น
Deuces (ดิวซ์): ไพ่คู่ 2
Double up (ดับเบิลอัพ): การออลอินและชนะ จนทำให้ชิปของผู้เล่นเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
Draw (ดรอว์): ไพ่ที่ผู้เล่นต้องการให้ติดเพื่อให้ได้มือที่แข็งแกร่งขึ้น เช่น มีไพ่ 2 และ 3 และฟล็อปมีไพ่ 4 และ 5 ผู้เล่นกำลัง “ดรอว์สเตรท" หรือ ลุ้นสเตรท
Dry board (บอร์ดแห้ง) : บอร์ดที่ไม่มีโอกาสดรอว์มาก เช่น ฟล็อปที่เป็นไพ่คนละดอกสามใบ (Rainbow flop) ซึ่งไม่มีโอกาสฟลัชดรอว์
Edge (ความได้เปรียบ): สถานการณ์ที่คุณมี Equity มากกว่าคู่ต่อสู้
Fire a barrel (ยิงแบร์เรล): การวางเดิมพัน
Fire multiple barrels (ยิงแบร์เรลหลายครั้ง): การเดิมพันต่อเนื่องในหลายรอบ
Fire three barrels (ยิงสามแบร์เรล): การเดิมพันในทั้งฟล็อป, เทิร์น และริเวอร์
Flop (ฟล็อป): ไพ่กองกลางสามใบแรกที่เปิดบนโต๊ะ
Fold equity (โฟลด์อิควิตี้): มูลค่าที่คุณได้รับเมื่อคู่ต่อสู้หมอบ ยิ่งคู่ต่อสู้หมอบบ่อยเท่าไร มูลค่า fold equity ของคุณก็จะมากขึ้นตามขนาดพอท
Game Theory Optimal (GTO) Poker (โป๊กเกอร์ตามทฤษฎีเกมที่เหมาะสม): กลยุทธ์การเล่นที่เน้นการป้องกัน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อทำให้คุณไม่สามารถถูกคู่ต่อสู้จับทางหาประโยชน์กำไรจากการเล่นของคุณได้
Get run over (เกตรันโอเวอร์) : การถูกบีบออกจากหลายๆพอทโดยการเล่นที่ดุดันของคู่ต่อสู้
Gutshot draw (กัทช็อตดรอว์): การรอไพ่ที่ขาดไปหนึ่งใบตรงกลางเพื่อให้ติดสเตรท เช่น มี 5-6-8-9 และต้องการ 7
Hand range (ช่วงมือ): ช่วงของไพ่ที่ผู้เล่นสามารถมีได้ในสถานการณ์หนึ่ง ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงไปตามการดำเนินเกม
Heads-up pot (พอทเฮดส์อัพ): พอทที่มีผู้เล่นเพียงสองคน
Hero call (ฮีโร่คอล) : การที่ผู้เล่นมีมือที่ค่อนข้างอ่อนแอ แต่สงสัยว่าคู่ต่อสู้กำลังบลัฟ ดังนั้นจึงตัดสินใจคอลเดิมพันของคู่ต่อสู้ในรอบการเดิมพันสุดท้าย
High-equity draw (ดรอว์ที่มี Equity สูง): การลุ้นไพ่ที่มีโอกาสออกไพ่เยอะแล้วการชนะสูง เช่น มีหลาย outs
Hole cards (โฮลการ์ด): ไพ่สองใบที่แจกให้ผู้เล่น ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า "พ็อกเก็ต" เช่น ถ้าคุณมีโฮลการ์ด A♠ A♦ คณก็มี “พ็อกเก็ตเอซ"
Initiative (อินนิชีเอทิฟความได้เปรียบในการเดิมพัน): สผู้เล่นที่ทำการเดิมพันหรือการเพิ่มเดิมพันครั้งสุดท้ายจะถูกกล่าวว่าเป็นผู้ที่มีความได้เปรียบ (initiative)
In position (อินโพสิตชั่นอยู่ในตำแหน่ง): การที่คุณได้ลงมือเล่นหลังจากคู่ต่อสู้
LAG (แล็ก): ผู้เล่นที่มีสไตล์ Loose Aggressive (เล่นไพ่กว้างและดุดัน) อย่างมีประสิทธิภาพ
Lead into (ลีดอินทูนำเดิมพันเข้าไป): ในพอทที่มีผู้เล่นสองคน (heads-up) การทำการเดิมพันครั้งแรกในรอบโพสต์ฟล็อป ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเดิมพันของคุณมีเป้าหมายไปที่คู่ต่อสู้
Lead out (ลีดเอ้าท์เดิมพันนำ): การเป็นผู้เล่นคนแรกที่เดิมพันในรอบโพสต์ฟล็อป
Leak (ลีกจุดอ่อนในการเล่น): พฤติกรรมที่ทำให้คุณเสียเงินโดยไม่จำเป็น
Limp in (ลิมป์อิน): การเข้าไปเล่นในพอทก่อนฟล็อปโดยการคอลบิ๊กบลายด์แทนที่จะเรส
Loose player (ลูสเพลยเยอร์ผู้เล่นหลวม): ผู้เล่นที่เล่นพรีฟล็อปด้วยไพ่หลากหลายช่วง
Loose range (ลูสเรนจ์ช่วงไพ่กว้าง): ช่วงไพ่ที่มีหลายคอมบิเนชัน ใช้แทนคำว่า "wide range"
Low-card wet board (โลวการด์เวตบอร์ดบอร์ดเปียกที่มีไพ่ต่ำ): บอร์ดที่มีโอกาสดรอว์สูง แต่ไม่ได้ใช้ไพ่สูง เช่น ฟล็อป 4♦ 3♥ 2♥, 6♠ 7♠ 9♣ และ 5♦ 6♣ 2♥
Maniac (มาเนียค): ผู้เล่นที่เล่นไพ่มากเกินไปในลักษณะที่ดุดันเกินไป โดยส่วนใหญ่จะเล่นโดยไม่มีแผนการที่ชัดเจน
Metagame (เมตาเกม): เกมระดับสูงที่มีการนำประวัติการเล่นของคุณและคู่ต่อสู้มาปรับใช้ในการตัดสินใจ
Min-raise (มิน-เรส) : การเพิ่มเดิมพันที่เป็นสองเท่าของการเดิมพันก่อนหน้า ในกรณีของพรีฟล็อป นั่นหมายถึงการเพิ่มเป็นสองเท่าของบิ๊กบลายด์
Multi-way pot (มัติเวย์พอทพอทหลายทาง): พอทที่มีผู้เล่นตั้งแต่สามคนขึ้นไป
Nitty (นิตตี้): ผู้เล่นที่เล่นแบบรัดกุมและระมัดระวังมาก
The nuts (นัทส์) : ไพ่ที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในสถานการณ์นั้น
Nutted hand (มือที่ดีที่สุด): มือที่แทบจะเสมอไปที่จะเป็นมือที่ดีที่สุด คุณสามารถอธิบายผู้เล่นที่ถือมือแบบนี้ว่า "นัทเต็ด" (nutted) ได้
Open limp (โอเพ่นลิมป์): การเป็นผู้เล่นคนแรกที่เลือกเข้าพอทโดยการคอล แทนที่จะเรส (ไม่รวมบลายด์ที่เป็นการเดิมพันบังคับ)
Out of position (อยู่นอกตำแหน่ง): การที่คุณต้องลงมือเล่นก่อนคู่ต่อสู้
Outs (เอาต์): ไพ่ที่คุณต้องการเพื่อให้ติดมือที่แข็งแกร่งขึ้น
Overbet (โอเวอร์เบท): การเดิมพันที่มีขนาดใหญ่กว่าพอท
Overcards (โอเวอร์การ์ด): ไพ่ที่มีอันดับสูงกว่าไพ่ที่สูงสุดบนบอร์ด
Overpair (โอเวอร์แพร์): ไพ่คู่ที่มีอันดับสูงกว่าไพ่คู่ที่เป็นไปได้บนบอร์ด
Pay off (จ่ายเงินให้): การคอลเดิมพันก้อนใหญ่ของคู่ต่อสู้
Peel (พีล): การคอลเดิมพันหรือเรสเพื่อดูไพ่อีกใบ
Polarized (โพลารไรซ์ความชัดเจนของไพ่): เมื่อช่วงไพ่ประกอบด้วยแค่ไพ่ที่แข็งแกร่งและไพ่ที่อ่อนแอมากเท่านั้น ยิ่งช่วงไพ่นั้นมีความเป็น polarized มากขึ้นเท่าไร มือที่มีมูลค่าสูงก็จะแข็งแกร่งขึ้น และการบลัฟก็จะอ่อนแอลง
Range advantage (เรนจ์ แอดแวนเทตจ์ความได้เปรียบของช่วงไพ่): สถานการณ์ที่ช่วงไพ่ของคุณแข็งแกร่งกว่าช่วงไพ่ของคู่ต่อสู้
The river (ริเวอร์): ไพ่กองกลางใบที่ห้าและใบสุดท้ายที่เปิดบนโต๊ะ
Set (เซ็ต): ไพ่ตองที่ได้จากการมีไพ่คู่ในมือและอีกใบที่ออกบนบอร์ด
Shove (โชฟ): การออลอิน หรือเดิมพันชิปทั้งหมดที่เหลืออยู่
Show down (โชว์ดาวน์): การเปิดไพ่ให้คู่ต่อสู้ดูหลังจากรอบเดิมพันสุดท้าย
Showdown (โชว์ดาวน์): ช่วงเวลาหลังจากรอบเดิมพันสุดท้ายที่ผู้เล่นที่เหลือเปิดไพ่เพื่อดูว่าใครชนะ
Slow play (สโลว์เพลย์): การเล่นแบบไม่รีบเดิมพันหรือเรส เพื่อกระตุ้นให้คู่ต่อสู้เป็นฝ่ายเดิมพันเอง หรือให้พวกเขามีโอกาสติดไพ่ที่ดีกว่า เพื่อที่จะทำเงินให้มากขึ้น
Small ball (สมอลบอล): รูปแบบการเล่นที่เน้นลดความเสี่ยง ดยพยายามทำให้พอทเล็ก เว้นแต่จะมีไพ่ที่แข็งแกร่ง
Speculative hand (ไพ่เก็งกำไร): ไพ่ที่มักจะไม่แข็งแกร่งในตอนแรก แต่มีศักยภาพที่จะกลายเป็นมือที่แข็งแกร่ง เช่น ไพ่เรียงดอกเดียวกัน (suited connectors) หรือไพ่คู่เล็ก
Sticky player (ผู้เล่นเหนียวแน่น): ผู้เล่นที่มักไม่หมอบกับไพ่ระดับกลาง เพราะหวังว่าจะติดไพ่ดีขึ้น
Straddle (สแตรดเดิล): การวางเดิมพันโดยสมัครใจ หลังจากโพสต์บลายด์แต่ก่อนที่จะแจกไพ่
Street (สตรีท): ช่วงการเล่น เช่น ไพ่แต่ละใบที่เปิด (ฟล็อป, เทิร์น, ริเวอร์) หรือรอบการเดิมพัน
TAG (แท็ก): ผู้เล่น Tight Aggressive (รัดกุมและดุดัน) ที่เล่นประมาณ 20% ของมือ และโอเพ่นเรส 17% ซึ่งมักเป็นผู้เล่นระดับโปร
Three-bet (ทรีเบท): การรีเรสหลังจากที่มีโอเพ่นเรสพรีฟล็อป หรือการรีเรสหลังจากมีเรสในรอบโพสต์ฟล็อป
Tight range (ช่วงไพ่แคบ): ช่วงไพ่ที่มีคอมบิเนชันน้อย และมักเป็นไพ่ที่แข็งแกร่ง
Tilt (ทิลท์): สภาวะจิตใจที่ไม่ดี ส่งผลให้ผู้เล่นตัดสินใจผิดพลาดและเสียเงินมากกว่าปกติ
Trap (แทรปกับดัก): การเล่นช้าหรือไม่เรส เพื่อให้คู่ต่อสู้เดิมพันเอง หรือเพิ่มโอกาสให้พวกเขาติดไพ่ที่ทำให้คุณได้เงินมากขึ้น (ใช้แทนคำว่า "slow play" ได้)
Treys (เทรย์):ไพ่คู่ 3
Trips (ทริปส์): ไพ่ตองที่เกิดจากการที่บอร์ดมีไพ่คู่ และผู้เล่นถือไพ่หนึ่งใบที่มีค่าเดียวกัน
The turn (เทิร์น): ไพ่กองกลางใบที่สี่ที่เปิดบนโต๊ะ
Turn your hand faceup (เปิดไพ่ทางอ้อม): เมื่อคุณทำให้ผู้เล่นคนอื่นรู้แทบจะแน่ชัดว่าคุณมีไพ่ใบไหน โดยที่คุณไม่ได้เปิดไพ่จริง ๆ แต่การกระทำของคุณอาจจะทำให้เหมือนกับว่าคุณได้เปิดไพ่แล้ว
Value bet (แวลูเบท): การเดิมพันเมื่อคุณคาดหวังว่ามือของคุณแข็งแกร่งกว่ามือของคู่ต่อสู้ และต้องการให้พวกเขาคอลเพื่อให้ได้กำไร
Value hand (แวลูแฮนด์): ไพ่ที่แข็งแกร่งพอจะเดิมพันเพื่อให้คู่ต่อสู้คอลด้วยมือที่อ่อนกว่า และทำกำไรได้ในระยะยาว
Wet board (เว็ทบอร์ด): บอร์ดที่มีความเชื่อมโยงกันและมีโอกาสหลายทางในการจั่วไพ่ เช่น การจั่วสเตรทหรือฟลัช คำนี้สามารถใช้ได้กับบอร์ดในทุกช่วงเวลา โดยไม่คำนึงถึงจำนวนไพ่ที่เปิดลงบนโต๊ะ
Wet flop (เว็ทฟล็อป): ฟล็อปที่มีโอกาสหลายทางในการจั่วไพ่ เช่น การจั่วสเตรทหรือฟลัช
Whale (เวล): ผู้เล่นที่มีทักษะน้อย (เหมือนปลาวาฬใหญ่) ที่เล่นไพ่มากเกินไปในลักษณะพาสซีฟ โดยไม่มีทักษะ และมักจะคอลเดิมพันใหญ่ด้วยมือที่อ่อนแอ
Wide range (ช่วงไพ่กว้าง): ช่วงไพ่ที่มีหลายคอมบิเนชัน รวมทั้งไพ่ที่แข็งแกร่งและอ่อนแอ ใช้แทนกันได้กับ “loose range”
Winning player (ผู้เล่นที่ทำกำไร): ผู้เล่นที่สามารถเล่นโป๊กเกอร์ได้อย่างมีกำไร